เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ หนังออนไลน์ ที่กลายเป็นที่ตั้งตารอของใครหลายคนจากความสำเร็จของภาคแรกอย่างล้นหลาม โดยภาคนี้จะเป็นการเล่าเรื่องต่อเนื่องจากภาคที่แล้ว เมื่อการรวมตัวของเหล่ากลุ่มเด็กขี้แพ้ของเมืองเดอร์รี่เพื่อต่อสู้กับเจ้าปีศาจที่มาในคราบของตัวตลกได้เหมือนจะทำให้พวกเขาและชาวเมืองรอดพ้นจากการเงื้อมมือของเจ้าตัวตลก เพนนีไวซ์ และการสาบานร่วมกันว่าอีก 27 ปีข้างหน้าหากว่ามันกลับมาอีก พวกเขาก็จะกลับมาที่เมืองนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหยเพื่อจัดการมันให้สิ้นซาก
และแล้วเหล่าเด็กขี้แพ้ในวันนั้น ก็ได้เติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคน โดยบิลหัวหน้าของกลุ่มเด็กขี้แพ้ได้มีครอบครัวของตนและออกมาอาศัยอยู่ต่างเมือง มีอาชีพเป็นนักเขียนดาวรุ่งที่หลายคนจับตามอง แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดไปกว่าทุกวันที่เคยเป็นมา มีโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามาหาเขา และบอกว่า “มันกลับมาแล้ว” คำ ๆ นี้ทำให้บิลรู้ได้ทันทีว่า คำสัญญาที่เคยสัญญาไว้ในอดีต ถึงเวลาที่เขาและพ้องเพื่อนกลุ่มเด็กขี้แพ้ต้องมารวมตัวและหาหนทางในการกำจัดเจ้า เพนนีไวซ์ ให้จบอย่างจริงจังเสียที
แต่การเจอของเพื่อนพ้องในครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อทุกคนต่างก็มีชีวิตที่ดีเป็นของตัวเอง และไม่อยากที่จะนำทุกอย่างมาเสี่ยง แต่ทุกอย่างมันสายเกินไปเสียแล้ว เมื่อเจ้า เพนนีไวซ์ ต่างรู้การมาของพวกเขาและครั้งนี้มันจะไม่ยอมปล่อยให้ใครรอดและมาทำร้ายมันเหมือนครั้งที่ผ่านมา

นักแสดง
ภาพยนตร์ในภาคนี้เรียกว่ารวมดาราและนักแสดงมากฝีมือขนานแท้ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ เพราะเนื้อหาในเรื่องมีการตัดสลับกันไปมาระหว่างอดีตและเรื่องราวในปัจจุบัน ใครที่กำลังคิดถึงเหล่าเด็กขี้แพ้ก็จะได้เจอหน้าพวกเขาให้หายคิดถึง ไม่ว่าจะเป็น โซเฟีย ลิลลิส, แจเดน มาร์เทล, ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด, โชเซน จาคอบส์, เจเรมี เรย์ เทย์เลอร์, แจ็ค ดีแลน เกรเซอร์ และ ไวแอตต์ โอเลฟฟ์ ซึ่งเด็ก ๆ เหล่านี้ก็ยังคงบทบาทเดิม แต่มีการเสริมทัพด้วยรุ่นใหญ่ที่ต้องรับบทบาทเป็นพวกเขาในเวอร์ชั่นปัจจุบันด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ เจสสิก้า แชสเทน (Jessica Chastain) ที่มารับบท หญิงสาวเพียงคนเดียวของกลุ่มเด็กขี้แพ้, บิล รับบทโดย เจมส์ แม็คอะวอย (James McAvoy), บิล เฮเดอร์ (Bill Hader) ที่มารับบท ริชชี่ และนักแสดงอื่น ๆ อีกมาก รวมถึงดาวเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ขาดไม่ได้ เจ้าตัวตลกจอมเขมือบอย่าง เพนนีไวซ์ ที่รับบทโดย บิลล์ สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård) ที่ฝากผลงานไว้ในภาคแรกจนหลายคนต่างต้องชื่นชมในการแสดงของเขา
ความรู้สึกหลังชม
จุดเด่น
– ยังคงสามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างครบรส ไม่ว่าจะสยอง, ตลก หรือพาซึ้งได้อย่างสุดยอดและมีชั้นเชิง
เมื่อภาคแรกของ It นั้นก็ได้รับคำชมไปอย่างมากเกี่ยวกับการเล่าเรื่องที่ครบรสและอย่างพอเหมาะพอควร จนกลายเป็นเคมีและส่วนประสมที่หลายคนไม่อยากที่จะเชื่อว่า ภาพยนตร์ ดูหนังฟรี สยองขวัญเรื่องนี้จะสามารถดึงความอารมณ์ขันและความดราม่าเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ของพ้องเพื่อนได้อย่างพอดี และภาคนี้เองก็เช่นเดียวกันที่ยังคงเคมีเหล่านี้เอาไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ หนังยังคงมีมูดหลักของเรื่องคือ ความสยองขวัญของเจ้าตัวตลก เพนนีไวซ์ ที่กำลังจะกลับมาหลังจากพลาดท่าให้กับเด็ก ๆ กลุ่มนี้ มันรอวันที่จะกลับมาแก้แค้นและทำลายเมืองเดอร์รีให้ย่อยยับ คนดูไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยจากตัวตลกตัวนี้ ด้วยความสามารถในการแปลงกลายและรู้ถึงจุดอ่อนของเหยื่อทุกรายเกี่ยวกับความกลัวในจิตใจ จุดนี้เองทำให้ท้าทายคนดูเป็นอย่างมากรวมถึงทีมเด็กขี้แพ้ในเวอร์ชั่นปัจจุบันด้วย ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ถึงแม้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนแล้ว แต่ความสัมพันธ์และเคมีในช่วงวัยเด็กนั้นกลับถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี ว่าพวกเขาคือเด็กกลุ่มขี้แพ้พวกนั้นที่เติบโตมาจากวัยเดิมและผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึง 27 ปีข้างหน้า และความสัมพันธ์ของพวกเขาตั้งแต่วัยเด็กนี้เองทำให้เรื่องราวบางอย่างซับซ้อนจนคนดูต่างต้องเอาใจช่วยทั้งเรื่องการต่อสู้กับเพนนีไวซ์และความสัมพันธ์ที่ไม่ลงตัว
– การแสดงของเหล่านักแสดงที่ไร้ที่ติ
นักแสดงเด็กทีมเดิมที่รับบทเป็นกลุ่มเด็กขี้แพ้ยังคงทำให้เราต้องรู้สึกร่วมอยู่ตลอดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความตลกจากคาแลกเตอร์ที่ได้รับ หรือพูดจากวนกันตามภาษาเด็กได้อย่างเป็นธรรมชาติ และทีมนักแสดงรุ่นใหญ่ก็สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างดี ว่าพวกเขาคือเด็กพวกนั้นที่เติบโตขึ้นมา โดยที่คนดูต่างเชื่อสุดใจเพราะทุกการแสดงต่างเก็บรายละเอียดอย่างไร้ที่ติ และที่สำคัญ นักแสดงดาวเด่น อีกบทบาทที่คนทั่วโลกต่างรอคอย เจ้าตัวตลกอสูรในคราบของตัวเชิญเสียงหัวเราะอย่าง เพนนีไวซ์ ที่รับบทโดย Bill Skarsgård เขายังคงสร้างปรากฏการณ์ทางการแสดงที่ใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้ บทนี้สำหรับเขากลายเป็นของขึ้นหิ้งไปแล้วอย่างแท้จริง การเคลื่อนไหว การแสดง เสียงหัวเราะ ทุกอย่างของ เพนนีไวซ์ มันช่างถูกแสดงออกมาได้อย่างน่ากลัวและสยองจนคนดูเชื่อจริง ๆ ว่า ปีศาจตัวนี้มีอยู่จริง
– ยังคงสามารถรักษาเสน่ห์ของแก๊งเด็กขี้แพ้และแบ่งบทบาทของแต่ละตัวละครวัยเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างลงตัว
ความท้าทายของภาคนี้คือ การจะยังคงรักษาเสน่ห์ของทีมนักแสดงเด็กกลุ่มขี้แพ้ และเล่าเรื่องเหตุการณ์ปัจจุบันของทีมนักแสดงผู้ใหญ่ที่ผ่านเหตุการณ์ในวันที่เจ้าตัวตลกหายไปถึง 27 ปีให้ลงตัว แต่หนังภาคต่อเรื่องนี้กลับเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดีมาก สามารถที่จะกระจายบทบาทของทั้งสองกลุ่มได้อย่างลงตัว โดยที่ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ทำให้ถูกลดความสำคัญไป และด้วยเหตุผลข้อนี้เอง ทำให้ผู้คนต่างอึ้งและประทับใจกับหนังภาคต่อเรื่องนี้
จุดด้อย
– หนังยาวมาก ถึงเกือบ 3 ชม.
ด้วยเรื่องราวจำนวนมากที่ต้องการจะเล่า หนังใหม่ ให้กับคนดูผ่านการแสดงของนักแสดงในแต่ละช่วง ทำให้เวลาในการเล่าเรื่องนั้นค่อนข้างนาน และการกระจายความสำคัญของทุกตัวละครให้เท่าเทียมกันนั้นต้องใช้เวลาในการแสดงจุดยืนของแต่ละตัวละคร ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลานานมากกว่าภาคแรก เกือบ 3 ชม. ทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อนอาจจะไม่เกิดความรู้สึกร่วมและมึนงงได้ในบ้างช่วง
– มีหลายฉากที่กระทบต่อจิตใจคนดูมากเกินไป
จุดยืนของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่เล่าเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับที่โผล่มาจากท่อระบายน้ำในทุก ๆ 27 ปี เพื่อมากัดกินวิญญาณของเด็ก นั้นทำให้มีหลายฉากที่เจ้าเพนนีไวซ์ทำร้ายเด็กอย่างโหดเหี้ยมจนเกินกว่าที่คนดูจะจินตนาการไว้ ทำให้คนดูรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้สะเทือนต่อจิตใจของพวกเขา และจังหวะในการตัดต่อที่ไม่ได้เน้น Jump Scare แค่อยากจะให้คนดูตกใจแต่เป็นการทรมานและจังหวะในการหลอกแบบใหม่ ๆ ทำให้คนดูหลายคนรู้สึกตื่นกลัวกับเจ้า เพนนีไวซ์ เป็นอย่างมาก
สรุป
ภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ กลายเป็นงานชิ้นโบว์แดงของผู้กำกับน้องใหม่อย่าง แอนดี้ มุสชีเอตติ จากผลการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากภาคแรกและเสียงฮือฮาอย่างต่อเนื่องในภาคที่สองนี้ ทำให้ชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้รวมถึงนักแสดงกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ภาพยนตร์เรื่องนี้มีครบทุกรสชาติที่คนดูจะต้องตกหลุมรักหนังเรื่องนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบภาพยนตร์แนวสยองขวัญ เรื่องนี้เป็นมากกว่าภาพยนตร์สยองขวัญในท้องตลาดเพราะมันคือการเดินทางร่วมกันของเด็กขี้แพ้ที่ตั้งใจจะต่อสู้กับโชคชะตาและเจ้าเพนนีไวซ์ ปีศาจตัวตลกเพื่อเมืองและเพื่อกำหนดชะตาชีวิตของพวกเขาเอง ถ้าคุณกำลังมองหาหนังดี ๆ สักเรื่อง It Charpter Two คือ หนังที่แนะนำอย่างยิ่ง
จบไปแล้วกับการรีวิวหนัง It Charpter Two อย่าลืมติดตาม การรีวิวหนังและดูหนังระทึกขวัญใหม่ ๆ ได้ที่ “moviethai“